เหมียวตาเริ่มเป็นหนุ่มก็ไม่ค่อยอยู่บ้านอยู่ช่อง
วันๆ ไม่เห็นหัวนอกจากเวลาหิวข้าว เช้าไปเย็นกลับอาไรแบบนั้น บ้านก็ปล่อยให้คนใช้
เอ๊ยไม่ใช่ พ่อกับแม่คอยดูแลไปก่อน
เหมียวตาค่อนข้างเผด็จการมาถึงจะกินก็ต้องกินให้ได้
จะต้องได้กิน ไม่งั้นก็จะร้อง ร้อง ร้อง ร้อง...ร้องจนแม่รำคาญก็จะรีบๆ
หาอาหารให้กิน แหม...คนยังไม่ทันจะกิน วีไอพีสุดๆ รักพ่อแค่ไหนก็ยังไม่เท่าเหมียวตา
พ่อน่ะรอได้ แต่เหมียวตานี่สิรอไม่ได้ ร้องปุ๊บเป็นต้องหาให้กินปั๊บเลย
(ไม่ใช่อาไร รำคาญเสียงร้องมัน)
“วันๆ ไม่เห็นหัว มาทีนึงก็หิวซ่กๆ ไปเกาหลีมาหรือไง ทำยังกะมาจากรุงโซ..” นี่คือคำบ่นของแม่
ปกติจะวิ่งหาแต่แม่เพราะจ้องแต่จะกินลูกเดียว แต่ถ้าวันไหนเหมียวตาร้องกวนใจมากจนเกินเหตุแล้ววิ่งไปหาพ่อ
แสดงว่ามีเหตุผล พ่อมองๆ ก็พอจะรู้...วันนี้เอาแผลอะไรกลับมาอวดอีก เหมียวตาวิ่งเข้าหาตักพ่อพร้อมกับฟ้องว่า
ผมไปทำไรมา...จากนั้นก็ตามมาด้วยยาเบทาดีน
(ตั้งแต่ซื้อมาคนไม่ได้ใช้เลย ต้องยกให้เหมียวตาไว้ใช้ส่วนตัวหนึ่งขวด)
วีรกรรมโชกโชน มาแต่ละแผลไม่เบาเลยเชียว พ่อบ่นไปทายาไป เป็นแมวหนุ่มก็ต้องไว้ลาย ต่อสู้กับแมวหนุ่มตัวอื่นๆ
โชว์พาวอวดสาวๆ เป็นประจำ เท่ห์พอแล้วก็หลบหนีกลับมาให้พ่อรักษา
ไม่วันไหนเห็นเหมียวตาอยู่บ้านทั้งวันแสดงว่าอกหักก๊าบ เหมียวตาของผมจะหลบเลียแผลใจอยู่หลายวันเลยก๊าบ
แหม...ผมไม่ค่อยอยู่บ้านเพราะไรนะเหรอ?
ผมก็ออกมาทำธุระส่วนตัวมั่งสิก๊าบ
บางครั้งก็ออกมากินลมชมวิว
หิวละก๊าบ หลับหูหลับตากินอย่างอาหย่อย
แล้วก็....ถ้าวันไหนเห็นเหมียวตาอยู่บ้านทั้่งวัน
แสดงว่าอยู่ในช่วงหลบเลียแผลใจ