แม่จ๋อยตอนถ่ายแบบโฆษณากระเป๋ารักษ์โลก
I Love Chiangmai
ปะ....ไปหาป้าหมอกัน
แม่เริ่มไม่ไว้ใจ พาแม่จ๋อยไปพรชัยปศุสัตว์ คลินิกที่เหมียวตาเป็นคนไข้ประจำอยู่ เพื่อให้ป้าหมอฉีดยาคุม ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือเปล่า ป้าหมอบอกว่า ถ้ามันท้องอยู่แล้วยาคุมจะกลายเป็นยาบำรุงครรภ์ให้แมว แม่ก็ว่าไม่เป็นไร ฉีดไปเหอะ
การพาแมวไปหาหมอ เป็นอะไรที่เอิกเกริกมาก แค่จะพาแม่จ๋อยไปฉีดยาคุมตัวเดียว แม่ต้องเอาทั้งเหมียวตาและลุงเจ๋งไปเป็นเพื่อน จะได้คอยเป็นกำลังใจ แม่จะเอาแมวใส่รถคันเล็กที่ปกติจอดทิ้งไว้เฉยๆ เลยพูดติดตลกว่า รถคันนี้เป็นรถแมวๆ เอาไว้พาแมวไปหาหมอเท่านั้น ขาไปแมวทุกตัวจะร้องโวยวายไปตลอดทาง กระโดดขึ้นลงเบาะหน้าเบาะหลังนั่งไม่เป็นที่ เดี๋ยวๆ ก็ขึ้นมานั่งบนตักคนขับ สงสัยนึกว่าแม่จะเอาไปปล่อย
ไปถึงพรชัยปศุสัตว์ก็วีไอพีสุดๆ ป้าหมอต้องมุดเข้ามาในรถเพื่อวินิจฉัยโรคหรือฉีดหยูกฉีดยาให้ถึงที่ เพราะอะไรเหรอครับ ก็ที่บ้านป้าหมอน่ะมีหมาเยอะมาก แต่ละตัวเห่าเสียงดังกรรโชกสุดๆ แม้จะอยู่ในกรงก็ตาม แมวๆ อย่างพวกผมตกใจไปหมด พอแมวตกใจเล็บก็จะกางออก แล้วก็ดิ้นสุดชีวิตไม่ยอมให้คนอุ้ม วิธีที่ดีที่สุดก็คือให้ป้าหมอเข้ามาในรถหาพวกผมจะดีกว่าครับ เวลาฉีดยาแม่ต้องอุ้มตัวที่ต้องการฉีดไว้ เอามือกดหัวไม่ให้ดิ้น ไหนๆ มาแล้วก็พากันฉีดยาให้หมดทั้งสามตัวเลย ตามแต่ป้าหมอจะแนะนำว่าตัวไหนควรฉีดยาป้องกันอะไร เหมียวตาบอกว่าป้าหมอมือเบามากฉีดยาไม่เจ็บ เหมียวตาไม่เคยร้องเจ็บเพราะฉีดยาเลย ป้าหมอชมว่าเหมียวตาเก่งมาก แต่แม่จ๋อยก็เก่งครับฉีดยาไม่เจ็บ ไม่ร้อง ไม่โวยวายเลยสักนิด ส่วนลุงเจ๋งส่งเสียงคราง มีบ่นเล็กน้อย หลังจากฉีดยาเสร็จทุกตัวจะเรียบร้อยผิดปกติมาก ระหว่างทางในรถพากันเงียบกริบ นอนคุดอยู่ที่เบาะเฉยๆ ไม่ร้องสักแอะเดียว
วันรุ่งขึ้นแม่ลองจับแมวใส่รถอีก คราวนี้ร้องกันระงม กระโดดแผล็วลงรถ สงสัยเรียนรู้ได้ว่า ขึ้นรถเมื่อไหร่ต้องโดนจับไปฉีดยาเมื่อนั้น ไม่อาวววววว เหมียวกลัวเจ็บตัวอีก ไม่อาวแล้วก๊าบบบบบ......แม่
รถผุๆ คันนี้ละก๊าบ รถของเหมียว
คนเผลอเมื่อไร ต้องย่องขี้นหลังคารถเป็นประจำ
แต่...อย่าให้พ่อเห็นเชียวนะครับ เป็นต้องโดนเอ็ดกันกระเจิงแน่
จบตอนเจ็บๆ ของเหมียวแล้วก๊าบ