ลูกแมวลงจากหลังคาแล้ว แต่ทำไมยังมีเสียงกุกๆ กักๆ บนหลังคาอีก แม่รู้สึกแปลกใจ ต่อมากลายเป็นเสียงลูกแมวน้อยร้อง แม่ตกใจ เพราะคิดไม่ถึงว่าบนหลังคาจะยังมีลูกแมวหลงเหลืออยู่ แมวน้อยร้องเรียกหาแม่และพี่ๆ ของมันตลอดเวลา วิ่งไปวิ่งมาบนหลังคากุกกักๆ ร้องจนเสียงแหบเสียงแห้งน่าสงสาร แม่พยายามปีนขึ้นไปดูบนหลังคาก็หาไม่เจอ พอพ่อขึ้นไปก็หาไม่เจอ เรียกหาแมว แมวก็ตกใจกลัวหลบเข้าซอกเข้าหลืบ แล้วบนหลังคาก็กว้างซะขนาดนั้นจะไปตามหาได้ที่ไหน บอกให้แม่จ๋อยกับเหมียวตาขึ้นไปเอาลูกเอาหลานลงมา ก็ไม่มีใครไป เฮ้อ....ทนฟังเสียงร้องจนรู้สึกสงสาร เสียงร้องที่เหมือนกับจะหมดเรี่ยวหมดแรงไปแล้ว แม่จ๋อยก็ใจร้ายไม่ขึ้นไปให้นมลูกเลย แล้วมันจะกินอะไร
พ่อกับแม่ปรึกษากันอยู่สักพักหนึ่ง ก็พากันไปบ้าน อบต. ขอยืมกรงดักหนู คิดไม่ถึงว่าจะต้องใช้กรงดักหนูมาดักลูกแมว พอกลับเข้าบ้านแม่ก็เอาปลาดุกย่างให้พ่อหนึ่งชิ้นเพื่อทำเป็นเหยื่อล่อแมวหิว พ่อทำกับดักแมวเรียบร้อยแล้ว ก็ปีนขึ้นเอาไปวางไว้ที่ห้องใต้หลังคา พอปีนลงยังไม่ทันถึงพื้นบ้านก็ได้ยินเสียงโครม! พ่อยิ้มแล้วก็บอกว่า ได้ละ! คราวนี้ปีนขึ้นไปใหม่ กลไกของกรงดักหนูทำงานสำเร็จแล้ว เหยื่อตะครุบปลาดุกย่างเลยถูกขังอยู่ในกรง
กรงดักหนูขนาดไม่ใหญ่ แต่สัตว์ที่ดักได้กลับทำให้แปลกใจยิ่งกว่า เพราะตัวมันเล็กมาก แถมยังมีสีน้ำตาล มันไม่หันหัวออกมาหาพวกเรา เห็นแต่ขนกับลำตัว ตกลงมันหนูหรือแมวกันแน่ มองดูดีๆ ซิ
พอเปิดกรงออกมา ก็พบลูกแมวจริงๆ นั่นแหล่ะ สีน้ำตาลไหม้น่ารักมากๆ ลูกแมวน้อยกลับเชื่องคนอย่างไม่น่าเชื่อ ท่าทางมันคงหิวมาก แม่เลยจัดการหาอาหารให้มันกิน เหมียวตาเดินเข้ามาแจม เฝ้ามองดูลูกแมวตัวใหม่ด้วยความเป็นห่วง หวังว่าจะไม่มีอีกแล้วนะ เยอะแยะยั๊วเยี๊ยไปหมดแล้วเนี่ย (เสียงพ่อบ่นกระปอดกระแปด)
ลูกแมวตัวใหม่หน้าตาน่าสงสาร แม่เลยตั้งชื่อให้คล้องจองกับแบ๊ซ ว่า บ้องแบ๊ว
ในเวลาต่อมา เจ้าดำน้อยก็ถูกไอ้ดำพ่อของมันมาเอาไปเลี้ยง พากันหายไปจากบ้านอีกตัวหนึ่ง สุดท้ายครอบครัวเหมียวเหมียวจึงเหลือเพียง เหมียวตา แม่จ๋อย แบ๊ซแล้วก็แบ๊วก๊าบ พวกเราต่างก็มีความสุขกันทุกวันทุกคืน
พวกผมชอบพากันมาผึ่งแดดหลังตู้คอมเพรสเซอร์แอร์เป็นประจำทุกเช้า นั่งเป็นเพื่อนเวลาพ่อกับแม่กำลัง breakfast เห็นมั๊ยครับว่าน้องแบ๊วตัวเล็กกว่าแบ๊ซมากเลย
พ่อกับแม่ปรึกษากันอยู่สักพักหนึ่ง ก็พากันไปบ้าน อบต. ขอยืมกรงดักหนู คิดไม่ถึงว่าจะต้องใช้กรงดักหนูมาดักลูกแมว พอกลับเข้าบ้านแม่ก็เอาปลาดุกย่างให้พ่อหนึ่งชิ้นเพื่อทำเป็นเหยื่อล่อแมวหิว พ่อทำกับดักแมวเรียบร้อยแล้ว ก็ปีนขึ้นเอาไปวางไว้ที่ห้องใต้หลังคา พอปีนลงยังไม่ทันถึงพื้นบ้านก็ได้ยินเสียงโครม! พ่อยิ้มแล้วก็บอกว่า ได้ละ! คราวนี้ปีนขึ้นไปใหม่ กลไกของกรงดักหนูทำงานสำเร็จแล้ว เหยื่อตะครุบปลาดุกย่างเลยถูกขังอยู่ในกรง
กรงดักหนูขนาดไม่ใหญ่ แต่สัตว์ที่ดักได้กลับทำให้แปลกใจยิ่งกว่า เพราะตัวมันเล็กมาก แถมยังมีสีน้ำตาล มันไม่หันหัวออกมาหาพวกเรา เห็นแต่ขนกับลำตัว ตกลงมันหนูหรือแมวกันแน่ มองดูดีๆ ซิ
พอเปิดกรงออกมา ก็พบลูกแมวจริงๆ นั่นแหล่ะ สีน้ำตาลไหม้น่ารักมากๆ ลูกแมวน้อยกลับเชื่องคนอย่างไม่น่าเชื่อ ท่าทางมันคงหิวมาก แม่เลยจัดการหาอาหารให้มันกิน เหมียวตาเดินเข้ามาแจม เฝ้ามองดูลูกแมวตัวใหม่ด้วยความเป็นห่วง หวังว่าจะไม่มีอีกแล้วนะ เยอะแยะยั๊วเยี๊ยไปหมดแล้วเนี่ย (เสียงพ่อบ่นกระปอดกระแปด)
ลูกแมวตัวใหม่หน้าตาน่าสงสาร แม่เลยตั้งชื่อให้คล้องจองกับแบ๊ซ ว่า บ้องแบ๊ว
ในเวลาต่อมา เจ้าดำน้อยก็ถูกไอ้ดำพ่อของมันมาเอาไปเลี้ยง พากันหายไปจากบ้านอีกตัวหนึ่ง สุดท้ายครอบครัวเหมียวเหมียวจึงเหลือเพียง เหมียวตา แม่จ๋อย แบ๊ซแล้วก็แบ๊วก๊าบ พวกเราต่างก็มีความสุขกันทุกวันทุกคืน
เหมียวตาดูแลหลานเป็นอย่างดี
พวกผมชอบพากันมาผึ่งแดดหลังตู้คอมเพรสเซอร์แอร์เป็นประจำทุกเช้า นั่งเป็นเพื่อนเวลาพ่อกับแม่กำลัง breakfast เห็นมั๊ยครับว่าน้องแบ๊วตัวเล็กกว่าแบ๊ซมากเลย
เหมียวตารักหลานๆ มากก๊าบ เห่อน้องใหม่ไม่สนใจแบ๊ซเลย เชอะ!
จบตอนก๊าบ